![]() |
“คาถาพระอรหันต์” พระคาถาหน้าเด็ก ยิ่งสวด ยิ่งดี |
“คาถาพระอรหันต์” พระคาถาหน้าเด็ก
ตำนานคาถาพระอรหันต์
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระท่านเข้าไปธุดงค์ในรัฐกระเหรี่ยง ท่านได้ไปปักกลดอยู่ที่ชายป่า ไม่ไกลจากหมู่บ้านเล็กๆหมู่หนึ่ง รุ่งเช้าได้มีอุบาสิกาคนหนึ่งจากหมู่บ้านนั้นได้มาถวายอาหารบิณฑบาต ท่านได้พักอยู่ที่นั่นสองสามวัน
วันที่ท่านจะเดินทางต่อ หลังจากได้รับอาหารบิณฑบาตจากโยมอุบาสิกานั้น ถามถึงว่า อยู่สุขสบายดีหรืออายุเท่าไหร่ แล้วทำมาหากินอะไร เป็นต้น
อุบาสิกาคนนั้นก็ตอบว่า “อยู่สุขสบายดีเจ้าค่ะ ที่หมู่บ้านนี้อยู่กันอย่างสงบๆตามประสาบ้านนอก ช่วยเหลือเจือจานกันตามฐานะ ส่วนอายุนั้นดิฉันไม่ได้นับมานานแล้วเจ้าค่ะ ไม่ทราบเดี๋ยวนี้เท่าไรแล้ว สามีดิฉันอายุร้อยกว่า เสียไปนานแล้ว”
คำพูดของอุบาสิกาซึ่งดูแล้วอายุประมาณ ๔๐ – ๕๐ ปีเท่านั้น กลับบอกว่าอายุเท่าไรจำไม่ได้ ทำให้พระสนใจจึงถามว่า “คุณโยมมีของดีอะไรหรือ จึงมีอายุยืน” มีเจ้าค่ะ อุบาสิกาเรียนถวาย “ดิฉันเองก็อยากถวายท่านเพื่อท่านจะได้ไปบอกคนอื่นๆเป็นธรรมทาน หากเขามีศรัทธานำไปปฏิบัติก็อาจได้รับผลอย่างดิฉันได้รับอยู่ก็ได้
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อตอนที่ดิฉันเป็นสาวในวันที่แต่งงานได้นิมนต์พระมาในงานพิธี พระองค์ที่เป็นประธานซึ่งชาวบ้านส่วนมากเลื่อมใสศรัทธาท่านว่าเป็นพระอรหันต์ ท่านได้เมตตาให้พระคาถาไว้สวดมนต์ภาวนา จึงขอเรียกพระคาถานี้ว่า พระคาถาพระอรหันต์ โดยสวดจำนวนจบให้เท่าอายุทุกวัน ดิฉันมีความเลื่อมใสจึงได้ท่องบ่นภาวนาทุกๆวัน เรียกว่ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็สวดอยู่เสมอเป็นประจำไม่ขาด อานุสงส์ที่ได้ก็เท่าที่ท่านเห็นนี่แหละเจ้าค่ะ ดิฉันก็มีสุขภาพดี อายุมากแล้วก็ยังแข็งแรง สามีของดิฉันเขาไม่ค่อยเชื่อ สวดบ้างไม่สวดบ้าง ตอนนี้เสียชีวิตไปนานแล้ว ตอนที่เสียชีวิตอายุร้อยเศษ”
“แล้วคุณโยมทำมาหากินอะไรเล่า”
“ขายข้าวสารเจ้าค่ะ” อุบาสิกาตอบ “ที่บ้านขายข้าวสาร โอ่งข้าวสารของดิฉันพอตักขายแล้ว มันก็กลับเต็มขึ้นมาอีกทุกครั้ง ดิฉันได้อาศัยรายได้จากการขายข้าวสารนี่แหละเจ้าค่ะ กินบ้าง ใช้บ้าง ทำบุญบ้าง นี่ก็เป็นอานิสงส์จากการที่ดิฉันได้สวดมนต์ภาวนาคาถาพระอรหันต์นี้เป็นประจำ จึงขอถวายพระคาถาขึ้นแด่พระคุณเจ้าเพื่อที่จะนำไปบอกกล่าวแก่ผู้สนใจ มีศรัทธาในการจะสวดมนต์ภาวนาต่อไป”
หมายเหตุ อาตมาได้พระคาถานี้มาจากประเทศพม่า เมื่อคราวไปอยู่ที่นั่นระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๐๖ เห็นว่าพระคาถานี้มีประวัติดี และตัวพระคาถาก็มีความหมายดี รู้คำแปลแล้วสวดมนต์อยู่เสมอก็เป็นการเจริญกรรมฐานไปในตัวด้วย จึงได้นำมาเผยแพร่ ญาติโยมหลายท่านนำไปใช้ ก็บอกว่าได้ผลดี หากท่านมีศรัทธาก็จงท่องบ่นภาวนาสวดคาถานี้เป็นประจำเถิด
พระเมธีวรญาณ
คาถาพระอรหันต์
๑. พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา
ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง นามรูป (ใจ-กาย) ไม่เที่ยงเป็นทุกข์
๒. ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา
ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง นามรูป (ใจ-กาย) ไม่เที่ยงเป็นทุกข์
๓. สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา
ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง นามรูป (ใจ-กาย) ไม่เที่ยงเป็นทุกข์
๔. พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา
นามรูป (ใจ-กาย) ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตน
๕. อะนันตัง พะละวัง พุทธัง
พระพุทธเจ้ามีพระกำลังหาที่สุดมิได้
อะนันตัง โตจะรัง ธัมมัง
พระธรรมคำสอนเป็นอารมณ์หาที่สุดมิได้
อะนันตัง อะริยัง สังฆัง
พระสงฆ์สาวกมีจำนวนหาที่สุดมิได้
อะนันตัง อะริยัง สังฆัง
พระสงฆ์สาวกมีจำนวนหาที่สุดมิได้
อะนันตัง โพธิมุตตะมังฯ
พระโพธิญาณอันสูงสุดก็หาที่สุดมิได้
(เรียบเรียงจากหนังสือของอาจารย์ธวัชชัย พึ่งชัย)
๑. พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา
ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง นามรูป (ใจ-กาย) ไม่เที่ยงเป็นทุกข์
๒. ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา
ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง นามรูป (ใจ-กาย) ไม่เที่ยงเป็นทุกข์
๓. สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา
ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง นามรูป (ใจ-กาย) ไม่เที่ยงเป็นทุกข์
๔. พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา
นามรูป (ใจ-กาย) ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตน
๕. อะนันตัง พะละวัง พุทธัง
พระพุทธเจ้ามีพระกำลังหาที่สุดมิได้
อะนันตัง โตจะรัง ธัมมัง
พระธรรมคำสอนเป็นอารมณ์หาที่สุดมิได้
อะนันตัง อะริยัง สังฆัง
พระสงฆ์สาวกมีจำนวนหาที่สุดมิได้
อะนันตัง อะริยัง สังฆัง
พระสงฆ์สาวกมีจำนวนหาที่สุดมิได้
อะนันตัง โพธิมุตตะมังฯ
พระโพธิญาณอันสูงสุดก็หาที่สุดมิได้
(เรียบเรียงจากหนังสือของอาจารย์ธวัชชัย พึ่งชัย)
สนใจลงโฆษณา 062-3514255
ติดตามข่าวสารอื่นๆได้ ที่เพจสะออนนิวส์